ยาต้านไวรัสกลุ่มที่ 1 : NRTIs
ยาต้านไวรัสเอ็นอาร์ทีไอ (Nucleoside reverse-transcriptase inhibitors: NRTIs) เป็นหมวดยารับประทานที่ใช้ต้านเชื้อไวรัสที่เรียกว่า รีโทรไวรัส (Retrovirus) ที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์หรือเอชไอวี โดยกลุ่มยาเอ็นอาร์ทีไอจะเข้าไปขัดขวางการสร้างสารพันธุกรรมของรีโทรไวรัส ทำให้การแพร่พันธุ์ของไวรัสชะลอตัว จึงส่งผลให้สภาพร่างกายผู้ป่วยดีขึ้น มีอายุยืนยาวกว่าผู้ที่ติดเชื้อเอดส์แต่ไม่ได้ทำการรักษา ยาในกลุ่มนี้ประกอบด้วย Zidovudine, Didanosine, Zalcitabine, Stavudine, Lamivudine, Abacavir, Emtricitabine, Entecavir
โดยทั่วไปทางการแพทย์มักใช้ยาต้านไวรัสเอดส์มากกว่า 1 ชนิดให้กับผู้ป่วย อาจจะเป็นเหตุผลด้านประสิทธิภาพของการรักษาและลดอาการข้างเคียงของยาตัวใดตัวหนึ่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับร่างกายของผู้ป่วยว่าตอบสนองต่อตัวยาได้ดีเพียงใด อย่างไรก็ตามกลุ่มยาเหล่านี้ไม่สามารถรักษาโรคเอดส์ให้หายขาดได้ เพียงแต่ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้นรวมถึงลดอัตราการเสียชีวิต
ยาต้านไวรัสเอดส์ส่วนใหญ่ขึ้นทะเบียนในหมวดยาควบคุมพิเศษ ผู้ป่วยไม่สามารถหาซื้อได้เองตามร้านขายยาทั่วไป การรับยาต้องผ่านทางสถานพยาบาลที่ลงชื่อรักษาไว้ และต้องมีใบสั่งจากแพทย์ประกอบในการรับยากลับบ้าน
ยาต้านไวรัสเอ็นอาร์ทีไอมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
ยาต้านไวรัสเอ็นอาร์ทีไอมีสรรพคุณดังนี้
- บรรเทาอาการป่วยของโรคเอดส์
- ใช้ป้องกันการติดเชื้อเอดส์หลังการสัมผัสเลือดของผู้ป่วย
- ใช้ป้องกันและลดโอกาสการติดเชื้อเอดส์จากมารดาสู่ทารกในครรภ์
- ยาบางตัวในยากลุ่มนี้ใช้รักษาไวรัสตับอักเสบ บี (เช่น Lamivudine)
ยาต้านไวรัสเอ็นอาร์ทีไอมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
กลไกการออกฤทธิ์ของยาต้านไวรัสเอ็นอาร์ทีไอคือ เนื่องจากรีโทรไวรัสจะใช้เอนไซม์ที่ชื่อว่า Reverse-transcriptase เปลี่ยนสารพันธุกรรมชนิดอาร์เอ็นเอ (RNA) ไปเป็นชนิดดีเอ็นเอ (DNA) ซึ่งทำให้ไวรัสชนิดนี้แพร่พันธุ์และสามารถทำลายระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกายมนุษย์โดยเฉพาะเม็ดเลือดขาวที่มีชื่อว่า ซีดี4 (CD4: Cluster of differentiation 4 ) ซึ่งยาต้านไวรัสเอ็นอาร์ทีไอจะเข้าไปขัดขวางกระบวนการดังกล่าว ทำให้ชะลอการแพร่พันธุ์ของรีโทรไวรัส ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น และยืดระยะเวลาของการมีชีวิตได้มากกว่าผู้ที่ไม่ได้รับการรักษา
ยาต้านไวรัสเอ็นทีอาร์ไอมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาต้านไวรัสเอ็นทีอาร์ไอมีรูปแบบการจัดจำหน่ายดังนี้
- ยาน้ำ ขนาด 10 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร
- ยาแคปซูล ขนาด 15, 20, 30, 100, 250, 300 และ 400 มิลลิกรัม/แคปซูล
- ยาเม็ด ขนาด 25, 125, 150, 200 และ 300 มิลลิกรัม/เม็ด
- ยาเม็ดชนิดผสมตัวยาต้านไวรัสมากกว่า 1 ชนิดขึ้นไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น